ให้เรตสมาชิก: 3 / 5

รวมขั้นตอนสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์หรือสินเชื่อบัตรกดเงินสดออนไลน์ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก

สมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ สมัครง่าย เปิดกว้างในทุกระดับเงินเดือน ไม่มีค่าธรรมเนียมการถอน สามารถถอนเงินสดได้ทันที มีจุดเด่นที่การอนุมัติรวดเร็ว สามารถกดเงินสดใช้ผ่านตู้ ATM ได้เลย จะรูดซื้อของ ผ่อนสินค้าที่อยากได้ ก็ทำได้แบบสบาย ๆ เลือกสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ใบแรกได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง สมัครง่าย สบาย สะดวก ทำได้ทุกที่ทุกเวลา

การสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์คืออะไร

บัตรกดเงินสด คือ สินเชื่อเงินสดประเภทหนึ่ง โดยเราสามารถนำบัตรไปถอนเงินสดกับตู้ ATM ได้ โดยธนาคารจะเป็นผู้อนุมัติวงเงินให้กับผู้ใช้งาน เหมือนการที่เราไปขอยืมสินเชื่อเงินสดจากธนาคารมาใช้ล่วงหน้านั่นเอง แต่จะสะดวกกว่าเพราะถือบัตรไปกดเงินออกจากตู้ ATM ได้เลย การกดเงินออกมาใช้ ผู้ถือบัตรต้องใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ยตามที่ธนาคารกำหนดไว้ในเงื่อนไข

การสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ คือ การสมัครบัตรกดเงินสดผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถสมัครได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องไปที่ธนาคาร ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีช่องทางให้สามารถสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ง่าย ๆ สมัครได้ทุกที่ทุกเวลา โดยสามารถสมัครสินเชื่อเงินด่วนออนไลน์ฟรีผ่านแอปธนาคาร รอให้เจ้าหน้าที่ติดต่อเข้ามารับเรื่องเพื่อดำเนินตามขั้นตอน รอธนาคารอนุมัติเพื่อให้ใช้งานได้ทันที

ใครบ้างที่เหมาะจะสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์

สินเชื่อเงินด่วนออนไลน์ เหมาะกับผู้ที่ต้องการสำรองเงินก้อนยามฉุกเฉิน มีเงินสำรองไว้ให้อุ่นใจเพื่อการใช้จ่ายในอนาคต เพราะบัตรกดเงินสดสามารถกดเงินออกมาใช้ได้ทุกวัน 

• ผู้ที่ไม่สะดวกไปติดต่อกับธนาคาร :  บุคคลธรรมดา พนักงานออฟฟิศต้องการตัวช่วยในการเสริมสภาพคล่องทางการเงิน
• ผู้ที่ต้องการตัวช่วยทางการเงิน :  ต้องการเงินสดในกรณีเร่งด่วนและสามารถชำระเงินคืนได้เร็ว โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกัน
• ผู้ที่ต้องการแหล่งเงินสำรอง :  ต้องการเงินสดใช้จ่ายอเนกประสงค์ เช่น ค่าเทอม ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน
• ผู้ที่ต้องการวางแผนทางการเงิน :  ต้องการผ่อนสินค้าดอกเบี้ย 0% ในการผ่อนระยะยาวนานสูงสุด 24 เดือน (เงื่อนไขแล้วแต่ธนาคาร)

สมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ด้วยตัวเองต้องทำยังไง 

การสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์มักจะมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนมาก และหลาย ๆ ธนาคารมีช่องทางให้สมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ในขั้นตอนที่แตกต่างกันไป โดยวิธีที่เราขอยกตัวอย่างคือการสมัครผ่าน KTC E-Appilcation โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

• สมัครผ่าน KTC E-Application : ขั้นตอนแรกคือเข้าไปยัง KTC E-Application สามารถเข้าได้ทั้งในคอมพิวเตอร์ และสมาร์ตโฟน 
• ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ: หลังจากติดตั้งแอปแล้ว ให้ทำการลงทะเบียน เข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย
• เลือกผลิตภัณฑ์: ในแอปพลิเคชันจะมีเมนูให้เลือกสินเชื่อบัตรกดเงินสดออนไลน์ที่ต้องการสมัคร ให้เลือกที่ "บัตรกดเงินสด KTC PROUD"
• ถ่ายรูปบัตรประชาชนและยืนยันข้อมูลบัตร
• กรอกข้อมูลส่วนตัว: กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้อง เช่น ชื่อ-นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน ที่อยู่ รวมถึงข้อมูลการติดต่อ
• อัปโหลดเอกสาร: อัปโหลดเอกสารที่ทางธนาคารกำหนด เช่น สำเนาบัตรประชาชน สลิปเงินเดือน หรือเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
• ยืนยันตัวตน (eKYC) และยืนยันข้อมูล: ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในการสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์อีกครั้งก่อนส่งคำขอ
• รอผลอนุมัติ: รอผลการอนุมัติจากทาง KTC  โดยปกติจะได้รับแจ้งผลภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 วันทำการถัดไป
• รับบัตร: หากได้รับอนุมัติ บัตรกดเงินสด สมัครออนไลน์จะถูกจัดส่งไปยังที่อยู่ตามที่ระบุไว้

วิธีคำนวณดอกเบี้ยบัตรกดเงินสดแบบเข้าใจง่าย

การคิดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบัตรกดเงินสดออนไลน์จะคิดเป็นรายวัน นับแต่วันที่ทำรายการถอนเงินจากบัตรจนถึงวันที่ชำระยอดเต็มจำนวน อัตราดอกเบี้ยจะคิดแบบลดต้นลดดอก โดยอัตราดอกเบี้ยสูงสุดจะอยู่ที่ 25% ต่อปี ซึ่งวิธีคำนวณดอกเบี้ยคือ 30 วัน (นับจากวันแรกที่มียอดใช้จ่าย) ตัวอย่างเช่น

สูตรคำนวณดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด

ดอกเบี้ย = จำนวนเงินที่กด x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันที่คิดดอกเบี้ย / 365 

สมมุติว่าถ้าคุณกดเงินสด 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี และค้างชำระ 30 วัน หาร 365 ก็จะเท่ากับ

ดอกเบี้ย = 10,000 x 25% x 30 / 365 = 205.48 บาท

หมายความว่า ถ้าคุณใช้บัตรกดเงินสด 10,000 บาท ต้องจ่ายเบี้ยที่ 205.48 บาท

สมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ง่าย ๆ ด้วยปลายนิ้ว!

เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง สำหรับใครที่กำลังจะสมัครบัตรกดเงินสดออนไลน์ อย่าลืมเตรียมความพร้อมในเรื่องต่าง ๆ ที่แนะนำในข้างต้นไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณสมบัติต่าง ๆ ของเราว่าเหมาะสมกับบัตรกดเงินสดของธนาคารที่เราจะสมัครหรือไม่ และเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในการสมัครบัตรกดเงินสดว่าเรามีครบถ้วนตามที่ธนาคารต้องการหรือไม่ ที่สำคัญอย่าลืมเช็คอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อบัตรกดเงินสดออนไลน์ในแต่ละธนาคารด้วยเพื่อประเมินความสามารถทางการเงินของเราด้วยนั่นเอง