เส้นใยสังเคราะห์เป็นหนึ่งในวัสดุหลักที่ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอและแฟชั่นอย่างแพร่หลาย ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นความทนทาน น้ำหนักเบา หรือความยืดหยุ่นสูง จึงกลายเป็นเส้นใยยอดนิยมในการนำมาผลิตเสื้อผ้า

อย่างไรก็ตามเส้นใยสังเคราะห์ก็มีข้อดี ข้อเสีย ที่ควรรู้ ก่อนใช้งาน โดยบทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับเส้นใยสังเคราะห์ให้ลึกยิ่งขึ้น ทั้งประเภท คุณสมบัติ ข้อดี-ข้อเสีย และแนวทางในการเลือกใช้งานให้เหมาะสม

เส้นใยสังเคราะห์คืออะไร ?

เส้นใยสังเคราะห์ หรือ Synthetic Fiber  คือเส้นใยที่สร้างขึ้นด้วยการสังเคราะห์โพลิเมอร์จากสารอินทรีย์หรืออนินทรีย์ และพัฒนาเส้นใยให้มีคุณสมบัติเด่น ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ทนทานต่อการใช้งานทั้งในระยะสั้น และ ระยะยาว สามารถใช้ผลิตเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เครื่องนอน ผ้าม่าน พรม และอื่นๆอีกมากมาย

 

เส้นใยสังเคราะห์ประเภทต่างๆที่นิยมใช้ในปัจจุบัน

 

เส้นใยสังเคราะห์ในท้องตลาดปัจจุบัน ที่มีการใช้งานมากที่สุดในอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้า และสินค้าอื่นๆ โรงงานผลิตมักจะใช้เส้นใยสังเคราะห์ 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่

1.  เส้นใยโพลีเมอร์สังเคราะห์ (Synthetic Polymer Fibers)

เป็นกลุ่มเส้นใยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ผลิตจากสารเคมีและโพลีเมอร์ต่างๆ เช่น 

• ไนลอน เด่นเรื่องความแข็งแรง ยืดหยุ่นดี แห้งไว 
• โพลีเอสเตอร์ ทนต่อการยับย่น และ การหดตัว 
• อะคริลิก ให้สัมผัสคล้ายขนสัตว์ เบาและอบอุ่น
• โอเลฟิน ทนต่อน้ำและความเปียกชื้น 

2. เส้นใยโปรตีนสังเคราะห์ (Synthetic Protein Fibers)

ผลิตจากโปรตีนที่สกัดจากพืชหรือสัตว์ เช่น หางน้ำนม ถั่วเหลือง หรือข้าวโพด แม้จะไม่เป็นที่แพร่หลายในปัจจุบันเท่าเส้นใยชนิดอื่น แต่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในสายเส้นใยจากทรัพยากรธรรมชาติ มีความอ่อนนุ่มและย่อยสลายได้ง่าย

3. เส้นใยเซลลูโลสสังเคราะห์ (Synthetic Cellulose Fibers)

เส้นใยประเภทนี้ผลิตจากเซลลูโลสธรรมชาติที่ผ่านกระบวนการแปรรูปใหม่ หรือที่เรียกว่า “เรยอน” ซึ่งถือเป็นเส้นใยกึ่งสังเคราะห์ โดยมีคุณสมบัติคล้ายใยไหม ให้สัมผัสนุ่ม ใส่สบาย และมีความเงางาม เหมาะกับการผลิตเสื้อผ้าแฟชั่น

คุณสมบัติเด่นของเส้นใยสังเคราะห์

1. ทนทานต่อการใช้งาน

เส้นใยสังเคราะห์มีความแข็งแรงสูง ไม่ขาดหรือเสียหายง่าย จึงเหมาะกับเสื้อผ้าที่ใช้ในกิจกรรมหนัก เช่น กีฬา หรือการทำงานกลางแจ้ง

2. น้ำหนักเบา เคลื่อนไหวคล่องตัว

เนื้อผ้ามีน้ำหนักเบา จึงไม่เพิ่มภาระในการสวมใส่ และช่วยให้เคลื่อนไหวได้สะดวกสบายตลอดวัน ไม่อึดอัด นิยมใส่ทำงานที่เคลื่อนไหวร่างกายตลอด และ เวลาออกกำลังกาย

3. ใช้ผลิตได้หลากหลายรูปแบบ

สามารถผลิตในรูปแบบที่หลากหลายได้ ทั้งเนื้อผ้าบาง เบา ไปจนถึงหนานุ่ม โดยสามารถผสมกับเส้นใยธรรมชาติเพื่อเพิ่มคุณสมบัติพิเศษของเส้นใยอื่นเข้ามาเพิ่มได้

4. มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ยับง่าย

เส้นใยสังเคราะห์บางชนิด เช่น ผ้าสแปนเด็กซ์ จะมีความยืดหยุ่นสูงมาก เหมาะกับชุดกีฬา และ ชุดเข้ารูป ที่ต้องการความกระชับรับเข้ากับร่างกาย และเคลื่อนไหวสะดวก

ข้อดีของเส้นใยสังเคราะห์

• คงรูปได้ดีไม่ยับง่าย ไม่หดตัวหลังซัก
• ดูแลรักษาง่าย ซักเครื่องได้ แห้งเร็ว ไม่ต้องรีดบ่อย
• ราคาไม่สูง ต้นทุนต่ำกว่าเส้นใยธรรมชาติหลายประเภท
• เหมาะกับการผลิตเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เครื่องนอน และอื่นๆ

ข้อเสียของเส้นใยสังเคราะห์

• ไม่เหมาะกับการใส่ในอากาศร้อนหรือสถานที่อับไม่ถ่ายเท
• อาจมีกลิ่นอับได้ หากไม่ดูแลรักษาอย่างเหมาะสม
• ย่อยสลายยาก มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหากทิ้งไว้เป็นขยะ
• ไม่ทนความร้อน เส้นใยอาจละลายได้หากรีดด้วยอุณหภูมิสูงเกินไป

คำแนะนำในการเลือกใช้เส้นใยสังเคราะห์

หากคุณต้องการผลิตเสื้อผ้าที่ทนทาน ใส่ทำกิจกรรมหนัก เช่น กีฬา หรือชุดทำงานนอกสถานที่ ควรเลือกใช้เส้นใยแบบ ไนลอน หรือ โพลีเอสเตอร์ หากต้องการความยืดหยุ่นสูง เลือกเสื้อผ้าที่มีส่วนผสมของ สแปนเด็กซ์ และ ถ้าต้องการเน้นความนุ่มนวล ใส่สบาย ควรมองหาเสื้อผ้าที่มีส่วนผสมของอะคริลิก และควรเลือกนำมาผลิตให้ตรงตามจุดประสงค์ในการใช้งานเป็นหลัก จะตอบโจทย์กับผู้สวมใส่ได้ดีที่สุด

บทสรุป

เส้นใยสังเคราะห์เหมาะกับผู้ที่มองหาเสื้อผ้าทนทาน ราคาคุ้มค่า และดูแลรักษาง่าย เหมาะกับการใช้งานประจำวันหรือกิจกรรมที่ต้องการความคล่องตัว อย่างไรก็ตาม ควรเลือกให้เหมาะกับจุดประสงค์การใช้งาน และต้องไม่ลืมเรื่องดีไซน์การออกแบบที่สวยงามประกอบด้วย

หากคุณกำลังมองหาโรงงานผลิตเสื้อผ้าคุณภาพสูงมาตรฐานสากล ในราคาประหยัด พร้อมบริการปรึกษา ออกแบบฟรี SMARTUNIFORM พร้อมให้บริการอย่างมืออาชีพ ครบจบในที่เดียว สนใจสอบถามโทร 02-415-7195