พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดงานชุมนุมตลาดนัดวิชาการและนวัตกรรมเกษตรกรรุ่นใหม่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือประจำปี 2560
ณ ต.โนนทัน จ.หนองบัวลำภู ว่า กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร มีเป้าหมายพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ให้เป็น Young Smart Farmer (YSF) เพื่อทดแทนเกษตรกรผู้สูงอายุและสร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่หันมาทำเกษตร ปัจจุบันมีเกษตรกรรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมโครงการและผ่านการประเมินคุณสมบัติเป็น Young Smart Farmer 5,477 ราย ซึ่งเกษตรกรรุ่นใหม่จะต้องได้รับการประเมินศักยภาพและต้องผ่านคุณสมบัติด้านรายได้ไม่ต่ำกว่า 180,000 บาทต่อครัวเรือนต่อปี
ด้านนายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวทางการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ ว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบผสมผสานระหว่างเกษตรกรและระหว่างเกษตรกรกับบุคคลต้นแบบ การศึกษาดูงาน การลงมือฝึกปฏิบัติจริง ผ่านการเรียนรู้ผ่านสื่อสารสนเทศและสื่อออนไลน์ สู่ความเป็น Smart Farmer ผ่านสื่อ Social Media และ Mobile Application ในการยกระดับระบบการตลาดสินค้าเกษตร
พร้อมยกระดับสู่ประเทศผู้นำด้านเทคโนโลยีเกษตร ด้วยความสามารถของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หันมาทำการเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม สอดคล้องกับโมเดล Thailand 4.0 สร้างการเปลี่ยนแปลงจากทำเกษตรแบบดั้งเดิมสู่การเกษตรสมัยใหม่ (ใช้นวัตกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและพัฒนา แล้วต่อยอดเป็นกลุ่มอาหารเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ) เป็น platform ในการสร้าง New Startups ด้านเทคโนโลยีเกษตร เพื่อมุ่งเปลี่ยนสินค้าเกษตรให้เป็นอาหารสุขภาพหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีมูลค่าสูง
“ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการเกษตร มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 4 จังหวัดขอนแก่น และสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 7 จังหวัดนครราชสีมา มุ่งพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 1,500 ราย ให้เกิดองค์ความรู้และนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์สำหรับ การพัฒนาภาคการเกษตร รวมทั้งเกิดการสร้างเครือข่ายเกษตรกรรุ่นใหม่ เพื่อเป็นพลังปฏิรูปภาคการเกษตรนำไปสู่ความเป็นผู้นำทางการเกษตร พึ่งพาตนเองได้ และเป็นที่พึ่งแก่เพื่อนเกษตรกร” นายสมชาย กล่าว
ด้านนายวิวิช พวงสวัสดิ์ ดิ์ YSF ต้นแบบภาคอีสานตอนบน เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้หันมาทำเกษตรผสมผสานแบบครบวงจร ทั้งขายผลผลิต ขายพันธุ์ เช่น ผักหวานป่า มัลเบอร์รี่ กล้วย กล้วยปิ้ง และแปรรูป น้ำมัลเบอร์รี่ ชาใบหม่อน ชาผักหวานป่า ขณะเดียวกัน เปิดพื้นที่แปลงเป็นที่ฝึกอบรม เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการเกษตรของสมาชิกเครือข่าย พร้อมกับเลี้ยงสัตว์ ปลา กุ้ง หอย ควบคู่กัน มีหน่วยงานของกระทรวงเกษตรฯสนับสนุนและพัฒนาผลผลิต รวมถึงสร้างเครือข่ายด้านเกษตรที่มีความเชี่ยวชาญหลายๆด้าน ซึ่งสร้างรายได้จากการทำเกษตรครบวงจรปัจจุบัน เดือนละ 40,000 - 100,000 บาท
ขอขอบคุณบทความจาก : http://www.ryt9.com/s/prg/2597229