ถ้ำเอราวัณ อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอนาวัง จังหวัดหนองบัวลำภู ห่างจากเส้นหนองบัวลำภู-เลย ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 210 ไปทางทิศเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร จะพบภูเขาหินปูน (ภูโดด) ตั้งอยู่ภายในจะมีถ้ำขนาดใหญ่และมีบันไดขึ้นลงประมาณ 621 ชั้น ภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยสวยงามวิจิตรพิสดารมาก ถ้ำนี้ถ้ามองภายใน ถ้ำขึ้นข้างบนจะทะลุฟ้าคล้ายหอดูดาว และสามารถมองดูทิวทัศน์บริเวณใกล้เคียงได้อย่างเหมาะสม ถ้ำนี้เป็นสถานที่เกิดนิทานพื้นบ้าน เรื่อง "นางผมหอม" ซึ่งมีการเล่าสืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง
ตามประวัติความเป็นมาเล่าว่า เจ้าเมืองนครศรีมีพระธิดานามว่า "นางสีดา" วันหนึ่งนางเที่ยวชมป่าไม้และเกิดหลงทางกลางป่า และกระหายน้ำมากจึงดื่มน้ำในรอย เท้าพญาช้างสาร ก่อน พอเดินต่อไปกระหายน้ำอีกจึงดื่มในรอยเท้าวัวกระทิง ปรากฏว่านางสีดาตั้งครรภ์ และถึงเวลาคลอดลูกได้หญิงฝาแฝด คนพี่เชื้อสายพญา ช้างสาร มีนามว่านางผมหอม เพราะเส้นผมของนางมีกลิ่นหอม คนน้องมีเชื้อสายวัวกระทิงมีนามว่านางลุน เพราะเกิดมาทีหลังจึงได้นามว่านางลุน เมื่ออายุได้ 13 ปี ได้ ออกตามหาบิดาไปในป่า ต่อมาทั้งสองได้พบพญาช้างสารแต่ไม่รับเป็นลูกทั้งสองคน พญาช้างสารได้พิสูจน์ด้วยการอธิฐานให้เด็กทั้งสองไต่บนงาของตนใครข้ามไปได้ จึงจะเป็นลูก ผลปรากฏว่านางผมหอมไต่งาช้างข้ามไปได้ ส่วนนางลุนไต่งาช้างและก้าวเท้าพลาดาตกมาศีรษะกระแทกพื้นเสียชีวิต พญาช้างสารได้พานางผมหอมไปอาศัยอยู่ในถ้ำช้าง (ถ้ำเอราวัณ)
ขอขอบคุณภาพจาก : http://www.phrae.go.th/tem/tip/nature_phrae
จนกระทั่งนางผมหอมเจริญวัยโตเป็นสาวลงเล่นน้ำและเสี่ยงทายเพื่อหาคู่ครอง โดยการนำเอาปอยผมและสารเสี่ยงทายบรรจุลงในผอบแก้วแล้วอธิฐาน ลอยน้ำไป จนกระทั่งถึงเมืองเป่งจาน ขุนไทกษัตริย์ผู้ครองนครเก็บผมนั้นได้ และออกตามหานางผมหอมจนพบกันที่ถ้ำเอราวัณแห่งนี้ เมื่อทั้งสองพบกันก็เกิดความรักใคร่เสน่หาซึ่งกันและกัน ทั้งสองครองรักกันจนมีบุตรธิดาด้วยกัน 2 คน คือ คนพี่เป็นชายนามว่า "สีลา" คนน้องเป็นหญิงนามว่า "ชา ดา" ต่อมาทั้งสองได้พาบุตรธิดาหนีพญาช้างสารจะไปอยู่เมืองเป่งจานนคร ฝ่ายพญาช้างสารได้ออกตามหาลูกและหลานจนพบ ด้วยความเสียใจที่ถูกลูกและหลานทิ้งไปอยู่เมืองอื่นจึงขาดใจตาย ก่อนตายได้ได้มอบงาของตนให้ขุนไทไว้เป็นอาวุธ เพื่อป้องกันตนเอง
ขณะที่กำลังเดินทางและพักแรมจนกว่าจะถึงเมือง เป่าจานนครนั้น ปรากฏว่าเส้นทางนั้นมีนางผีป่าเฝ้าอยู่และเกิดความเสน่หาในขุนไท เมื่อนางผมหอมอาบน้ำจึงถูกนางผีป่าผลักตกน้ำไป และนางผีป่าก็แปลง ตนเองเป็นนางผมหอมแทนโดยที่ขุนไทไม่รู้ตัว เมื่อเมืองเป่งจานนครนางผีป่าก็เข้าอยู่ในวังด้วยกับขุนไทในช่างระยะเวลา หนึ่ง แต่เนื่องจากพฤติกรรมของนางผีป่าแปลงแตกต่างกันกับนางผม หอมจริง เมื่อขุนไททราบความจริงจึงหาทางกำจัดนางผีป่า และไปรับนางผมหอมมาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ต่อมาได้ไปเยี่ยมมารดาที่เมืองนครศรีเป็นช่วงที่นางสีดาขึ้นครองเมืองแล้ว ขุนไท นางผมหอม และบุตรธิดาจึงกลับปกครองเมืองเป่าจานสืบมา ตำนาน นี้ต่อมาบันทึกไว้กลายเป็นวรรณกรรม หนังสือผูกใบลาน เขียนเป็นตัวหนังสือไทยน้อยใช้อ่านในงันเฮือนดี ต้นฉบับไม่เห็นที่นำมาบันทึกได้จาก จารุบุตร เรืองสุวรรณ นับเป็นวรรณกรรมที่มีสถานที่เกิดอยู่ในเขตพื้นที่หนองบัวลำภู
ที่มา : http://www.nongbualamphu.go.th/390/index.php/2015-09-11-05-01-16/84-2015-09-11-04-52-06