รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่าในการประชุม ครม. วันที่ 22 ต.ค. 62 คาดว่าจะมีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 วาระสำคัญ คือ

มาตรการชิมช้อปใช้ระยะสอง ซึ่งเบื้องต้นมีแนวโน้มเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มอีก 2-3 ล้านคน และปรับเวลาเปิดลงทะเบียนใหม่จากเที่ยงคืนมาเป็นช่วงเช้า หรือประมาณ 8-9 โมง เพื่ออำนวยความสะดวกไม่ต้องให้ทนนอนดึกหรือตื่นกลางดึกมาลงทะเบียน รวมถึงอาจจะให้ใช้สิทธิไปถึงสิ้นปี

ส่วนสิทธิประโยชน์ คาดว่าอาจพิจารณาแจกเงิน ให้ผู้ลงทะเบียนเฟส 2 ด้วย แต่ต้องรอว่าจะเป็น 1,000 บาทหรือไม่ พร้อมกับมีการเพิ่มสิทธิคืนเงินแคชแบ็กให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนนำเงินส่วนตัวมาเติมใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 โดยอาจจะให้เพิ่มแคชแบ็กเป็น 20%เมื่อใช้จ่ายตั้งแต่ 30,001-50,000 บาท ส่วน 30,000 บาทแรกยังได้รับ 15% เหมือนเดิม อย่างไรก็ตามการเปิดลงทะเบียนเฟส 2 นั้น จะให้เฉพาะคนที่ไม่เคยลงทะเบียนเฟสแรกมาลงทะเบียนได้เท่านั้น

ขณะที่มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จะมีการเสนอให้ ครม.พิจารณาในวันที่ 22 ต.ค. เช่นกัน ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งแนวทางจะมีการลดค่าใช้จ่ายในการโอนจากเสีย 2% เหลือ 0.01% และค่าจดจำนองจาก 1%เหลือ 0.01% สำหรับการซื้อขายบ้านที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยของตัวเอง นอกจากนี้จะให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส.จัดทำสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำวงเงิน 50,000 ล้านบาท สำหรับกู้ซื้อบ้านได้ทั้งบ้านใหม่ บ้านมือสอง เอ็นพีเอซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยที่ติดธนาคาร แต่ห้ามขอกู้เพื่อรีไฟแนนซ์

“มาตรการอส้งหานี้ หากครม.เห็นชอบจะต้องรีบดำเนินการโดยเร็ว เพราะไม่เช่นนั้นอาจเกิดภาวะชะงักงันในธุรกิจ ทืำให้คนส่วนใหญ่ชะลอการโอน เพื่อรอได้รับสิทธิมาตรการนี้”แหล่งข่าว กล่าว